เลือกขนาด Rack และการจัดวางกลองไฟฟ้าให้เข้ากับพื้นที่บ้าน
อัปเดตล่าสุด : 18/12/2025
กลองไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ตอบโจทย์คนรักดนตรียุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้น หรือมือกลองที่ต้องซ้อมเพลงในพื้นที่จำกัด แต่สิ่งหนึ่งที่มักทำให้หลายคนปวดหัวคือ “จะวางกลองไฟฟ้าอย่างไรให้ไม่เกะกะบ้าน?” หรือ “ควรเลือก Rack แบบไหนดีให้เข้ากับพื้นที่ห้องของเรา?”การเลือกขนาด Rack และการจัดวางที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังทำให้การเล่นลื่นไหลขึ้น สร้างบรรยากาศการซ้อมที่ดี และยังทำให้ห้องดูเป็นระเบียบมากขึ้นอีกด้วย
ทำไมการเลือก Rack ให้เหมาะกับพื้นที่ถึงสำคัญ
หลายคนมองว่ากลองไฟฟ้าเหมาะกับห้องเล็กก็จริง แต่หากเลือก Rack ผิดขนาดหรือจัดวางไม่ดี ก็อาจทำให้:
-เล่นไม่ถนัด พื้นที่ขยับตัวน้อยเกินไป
หลายคนมองว่ากลองไฟฟ้าเหมาะกับห้องเล็กก็จริง แต่หากเลือก Rack ผิดขนาดหรือจัดวางไม่ดี ก็อาจทำให้:
-เล่นไม่ถนัด พื้นที่ขยับตัวน้อยเกินไป
-ห้องแคบและดูรก
-Rack ขยับง่ายเพราะพื้นที่จำกัด
-ติดกำแพงจนเซ็ตตำแหน่ง Pad ได้ไม่ครบจุดที่ต้องการ
-ดังนั้น การเริ่มจากการวัดพื้นที่และเลือก Rack ให้เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด
รู้จักประเภทของ Rack และขนาดต่าง ๆ
Rack ของกลองไฟฟ้าแบ่งได้หลัก ๆ 3 ประเภท โดยแต่ละแบบเหมาะกับพื้นที่ที่ต่างกัน
Rack ของกลองไฟฟ้าแบ่งได้หลัก ๆ 3 ประเภท โดยแต่ละแบบเหมาะกับพื้นที่ที่ต่างกัน
1) Rack แบบมาตรฐาน (Standard Rack)
-พบได้ในชุดกลองไฟฟ้าทั่วไป
-พบได้ในชุดกลองไฟฟ้าทั่วไป
-มีโครงหน้าและโครงข้าง
-เหมาะกับคนที่มีพื้นที่ประมาณ 120–150 ซม.
-ข้อดี: เซ็ตตำแหน่งได้ง่าย แข็งแรง
-ข้อเสีย: ใช้พื้นที่มากกว่าแบบ Compact
2) Rack แบบ Compact หรือ Mini Rack
-โครงเล็กกว่าและใช้พื้นที่น้อย
-โครงเล็กกว่าและใช้พื้นที่น้อย
-เหมาะกับห้องขนาดเล็ก ห้องนอน คอนโด หรือพื้นที่ที่จำกัดมาก
-พื้นที่ที่ต้องใช้ประมาณ 90–120 ซม.
-ข้อดี: ประหยัดพื้นที่ เคลื่อนย้ายง่าย
-ข้อเสีย: การปรับตำแหน่งบางส่วนอาจน้อยกว่า Rack ใหญ่
3) Rack แบบสี่เหลี่ยม Full Frame
-คล้ายโครงกลองอะคูสติก ให้พื้นที่เซ็ตเหมือนกลองชุดจริง
-คล้ายโครงกลองอะคูสติก ให้พื้นที่เซ็ตเหมือนกลองชุดจริง
-เหมาะกับคนที่ต้องการความสมจริงและตั้งถาวรในห้องซ้อม
-พื้นที่ขั้นต่ำ 150–180 ซม.
-ข้อดี: ปรับอิสระสูง เล่นสบายที่สุด
-ข้อเสีย: กินพื้นที่มากที่สุด
วิธีวัดพื้นที่ก่อนเลือกซื้อ Rack
ก่อนซื้อกลองไฟฟ้าหรือ Rack ใหม่ ควรทำตามขั้นตอนนี้:
ก่อนซื้อกลองไฟฟ้าหรือ Rack ใหม่ ควรทำตามขั้นตอนนี้:
วัดความกว้างของพื้นที่
-วัดตั้งแต่กำแพงซ้ายไปกำแพงขวา
-วัดตั้งแต่กำแพงซ้ายไปกำแพงขวา
-ควรเผื่อพื้นที่อย่างน้อย 20–30 ซม. สำหรับขยับตัวและยกแขนตี
วัดความลึกของตำแหน่งวาง
-ระหว่างหน้ากลองกับกำแพงด้านหลัง
-ระหว่างหน้ากลองกับกำแพงด้านหลัง
-เผื่อพื้นที่วางเก้าอี้เล่นด้วย (ประมาณ 50–60 ซม.)
ดูปลั๊กไฟและตำแหน่งสายไฟ
-เพื่อให้เซ็ตโมดูลได้ง่ายและดูเป็นระเบียบ
-เพื่อให้เซ็ตโมดูลได้ง่ายและดูเป็นระเบียบ
ตรวจสอบความสูงของเพดาน (ในกรณีใช้ฉาบหลายใบ)
-ถ้าเพดานต่ำกว่า 2.3 เมตร อาจต้องปรับตำแหน่งฉาบให้เตี้ยลง
-ถ้าเพดานต่ำกว่า 2.3 เมตร อาจต้องปรับตำแหน่งฉาบให้เตี้ยลง
ขนาดพื้นที่แนะนำตามรุ่นกลอง
-รุ่น Compact / Entry Level 1.0–1.2 เมตร ห้องเล็ก ห้องนอน คอนโด
-รุ่น Compact / Entry Level 1.0–1.2 เมตร ห้องเล็ก ห้องนอน คอนโด
-รุ่น Mid-Range Rack มาตรฐาน 1.2–1.5 เมตร คนที่ต้องการเซ็ตฉาบเพิ่ม
-รุ่น High-End / Full Frame Rack 1.5–1.8 เมตร ห้องซ้อมจริงจัง นักดนตรีมืออาชีพ
เคล็ดลับเพิ่มพื้นที่ให้ดูกว้างขึ้น
-เลือกกลองสีดำหรือสีเข้ม ช่วยให้ดูกะทัดรัด
-เลือกกลองสีดำหรือสีเข้ม ช่วยให้ดูกะทัดรัด
-เลือกฉาบแบบ Stack หรือ O-Zone เพื่อลดพื้นที่ด้านบน
-ใช้เก้าอี้กลองแบบขาพับเก็บได้
-จัดแสงให้มุมกลองดูโปรและมีระเบียบ ช่วยให้ห้องดูดีขึ้นอย่างมาก
สรุป
การเลือกขนาด Rack และการจัดวางกลองไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ดูว่ากลองสวยหรือเท่าขนาดไหน แต่ต้องเริ่มจากการวัดพื้นที่ วิเคราะห์รูปแบบห้อง และเลือก Rack ที่เหมาะกับการใช้งานจริง การจัดวางที่ถูกต้องไม่เพียงแค่ทำให้เล่นได้ถนัดขึ้น แต่ยังช่วยให้ห้องดูไม่รก พร้อมสร้างพื้นที่ซ้อมดนตรีที่ทั้งสวย ฟังก์ชันดี และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของบ้านคุณ หากจัดมุมดีๆ ต่อให้ห้องเล็กแค่ไหน ก็สามารถมีมุมกลองไฟฟ้าที่ลงตัวได้แน่นอน!😊🥁
การเลือกขนาด Rack และการจัดวางกลองไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ดูว่ากลองสวยหรือเท่าขนาดไหน แต่ต้องเริ่มจากการวัดพื้นที่ วิเคราะห์รูปแบบห้อง และเลือก Rack ที่เหมาะกับการใช้งานจริง การจัดวางที่ถูกต้องไม่เพียงแค่ทำให้เล่นได้ถนัดขึ้น แต่ยังช่วยให้ห้องดูไม่รก พร้อมสร้างพื้นที่ซ้อมดนตรีที่ทั้งสวย ฟังก์ชันดี และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของบ้านคุณ หากจัดมุมดีๆ ต่อให้ห้องเล็กแค่ไหน ก็สามารถมีมุมกลองไฟฟ้าที่ลงตัวได้แน่นอน!😊🥁
